
Indicator คืออะไร ? เครื่องมือช่วยวิเคราะห์ในตลาด Forex ถ้าคุณกำลังตามหาความสำเร็จในตลาด Forex ละก็ คุณต้องหาความรู้เข้าตัวให้มากๆเพราะว่าตลาด forex เป็นตลาดเงินที่มีความเสี่ยงที่สุดในโลก เนื่องจากตลาดเงินนี้มีเงินหมุนเวียนต่อวันเป็นจำนวนมากและมากกว่าตลาดเงินทั่วโลกรวมกันเสียอีก จึงทำให้กราฟราคาในตลาด Forex มีความผันผวนและแกว่งตัวอย่างรุนแรง ดังนั้นการศึกษาเรียนรู้สิ่งต่างๆในตลาด Forex จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะว่ามันสามารถช่วยให้คุณทำกำไรจากตลาดเงินนี้ได้อย่างมั่นคง แต่ถ้าคุณไม่มีความรู้ความเข้าใจในตลาด Forex และยังเข้ามาเทรดที่เหมือนกับการเล่นการพนันก็จะทำให้คุณต้องเดินออกจากตลาดนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ เพราะว่าเข็ดจาการขาดทุนซ้ำๆหรือกระทั่งขาดทุนจนหมดตัวก็อาจจะเป็นไปได้ ซึ่งในบทความนี้ผมจะพาเทรดเดอร์ทุกๆท่านไปรู้จักกับเครื่องมือที่จะช่วยให้เทรดเดอร์ในตลาด Forex สามารถวิเคราะห์กราฟราคาได้อย่างดีนั่นก็คือ “Indicator (อินดิเคเตอร์)” ซึ่งมันเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากในตลาด Forex แต่ยังมีเทรดเดอร์มือใหม่อีกหลายๆคนที่ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร ผมจึงได้เขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อให้เทรดเดอร์ทุกๆคนได้รู้ว่า Indicator (อินดิเคเตอร์) คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไรบ้างในตลาด Forex
Indicator คืออะไร?
Indicator (อินดิเคเตอร์) คือ เครื่องมือที่สามารถช่วยวิเคราะห์ทิศทางของราคาโดยใช้การคำนวณด้วยสูตรต่างๆทางคณิตศาสตร์ โดยใช้ข้อมูลพวกนี้เป็นตัวชี้วัดเพื่อใช้ในการตัดสินใจ ซื้อขายได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในตลาด Forex เพราะสามารถช่วยวิเคราะห์ทิศทางและแนวโน้มของราคาว่าเป็นสภาวะไหน เป็นแนวโน้มขาขึ้น หรือ เป็นแนวโน้มขาลง และช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเปิดปิดออเดอร์ เนื่องจาก Indicator (อินดิเคเตอร์) ช่วยบอกสัญญาณเตือนล่วงหน้าเพื่อหาจังหวะเข้าซื้อขายและเปิดปิดออเดอร์ที่ได้เปรียบ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับเทรดเดอร์ที่ชื่นชอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่ง Indicator (อินดิเคเตอร์) ในตลาด Forex นั้นมีมากมาย ซึ่งในหัวข้อต่อไปผมจะพาคุณไปรู้จักกับ Indicator (อินดิเคเตอร์) พื้นฐานในตลาด Forex ที่ควรศึกษา
Bollinger Band คืออะไร?
Bollinger Band คือ อินดิเคเตอร์ตัวหนึ่งในตลาด Forex ที่ใช้ดูแนวโน้มว่าจะเคลื่อนที่ไปทางไหน และยังสามารถใช้หาการกลับตัวของราคาหรือการไปต่อก็ได้ทั้งนั้น ซึ่ง Bollinger Band ได้พัฒนามาจากอินดิเคเตอร์อีกตัวหนึ่งที่ชื้อว่า Moving Average Envelopes ที่มีรูปแบบเป็นกรอบที่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระตามแนวโน้มของราคาที่มีลักษณะคล้ายๆกับถ้ำที่มีกราฟราคาวิ่งขึ้นลงภายในถ้ำนั้นๆตามแนวโน้ม ซึ่ง Bollinger Band จะมีลักษณะที่แระกอบไปด้วยเส้น 3 เส้น ได้แก่
- เส้นขอบบน (Upper Band) เป็นเส้นที่อยู่ข้างบนสุดของ Bollinger Band
- เส้นตรงกลาง (Middle Band) เป็นเส้นที่อยู่ตรงกลางของ Bollinger Band
- เส้นขอบล่าง (Lower Band) เป็นเส้นที่อยู่ล่างสุดของ Bollinger Band
ซึ่งอินดิเคเตอร์ Bollinger Band นี้ถูกคิดค้นโดย “John Bollinger”
วิธีเปิด Bollinger Band ในโปรแกรม Matatrader
ขั้นตอนการเรียกใช้อินดิเคเตอร์ Bollinger Band สามารถทำได้ง่ายๆเพียง 3 ขึ้นตอนเท่านั้น ได้แก่
1. เปิดโปรแกรม MT4 หรือ MT5 แล้วเลือกตรงคำว่า Insert > Indicator > Trend > Bollinger Band
2. เลือกเสร็จแล้วจะมีหน้าต่างเล็กๆเด้งขึ้นมา ก็ให้คุณใส่ค่าในช่องแต่ละช่องให้ครบถ้วน ซึ่งค่านี้อาจจะเอาตามในรูปก็ได้เพราะว่ามันเป็นค่าที่เทรดเดอร์นิยมใช้อยู่แล้ว หรือเอาค่าตามที่คุณนั้นได้คำนวณไว้ก็ได้
3. เมื่อตั้งค่าเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะมีเส้น Moving Average 3 เส้น ที่มีกราฟราคาวิ่งอยู่ในนั้น ซึ่งมันก็คือ “Bollinger Band” นั่นเอง
Bollinger Band มีประโยชน์อย่างไร?
หาแนวโน้มของราคา
“Bollinger Band” สามารถใช้หาแนวโน้มของราคาว่าจะเคลื่อนที่ไปทางไหน จะมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นหรือมีแนวโน้มเป็นขาลง ซึ่งลักษณะของ Bollinger Band ที่บ่งบอกว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้นก็คือ กราฟราคาจะวิ่งขึ้นลงภายในบริเวณเส้นขอบบนและเส้นขอบตรงกลางขึ้นไปด้านบน ซึ่งในบางครั้งกราฟราคาอาจจะมีการทะลุเส้นตรงกลางลงมาบ้าง แต่ถ้าแนวโน้มยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงกราฟราคาก็จะขึ้นไปที่เส้นขอบบนอยู่ดี ส่วนลักษณะของ Bollinger Band ที่บ่งบอกว่าเป็นแนวโน้มขาลงก็คือ กราฟราคาจะวิ่งขึ้นลงอยู่ในเส้นขอบล่างและเส้นขอบตรงกลางในแนวเฉียงลงมา ซึ่งในบางครั้งกราฟราคาอาจจะมีการทะลุเส้นตรงกลางขึ้นไปบ้าง แต่ถ้าแนวโน้มยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงกราฟราคาก็จะลงมาที่เส้นขอบล่างอยู่ดี
ใช้ดู Overbought และ Oversold
“Bollinger Band” สามารถวัดได้ว่ามีการซื้อขายที่เยอะเกินไปหรือไม่ เช่น ถ้าคุณต้องการทราบว่า ณ ตอนนั้นมีการซื้อที่เยอะเกินไป (Overbough) หรือไม่ ก็ให้สังเกตุที่กราฟราคาเมื่อกราฟราคาทะลุเส้นขอบบนขึ้นไปแล้วดีดตัวกลับลงมาอยู่ภายในเส้นเหมือนเดิม แสดงว่ามีการซื้อที่เยอะเกินไป ถ้าคุณเจอกราฟราคาที่วิเคราะห์ร่วมกับ Bollinger Band รูปแบบนี้ก็ให้คาดการณ์ได้เลยว่ากราฟราคาอาจจะมีการกลับตัวเร็วๆนี้ จากแนวโน้มขาขึ้นเป็นแนวโน้มขาลง แต่ถ้าคุณต้องการทราบว่า ณ ตอนนั้นมีการขายที่เยอะเกินไป (Oversold) หรือไม่ ก็ให้สังเกตุที่กราฟราคาเมื่อกราฟราคาทะลุเส้นขอบล่างลงมาแล้วดีดตัวกลับขึ้นไปอยู่ภายในเส้นเหมือนเดิม แสดงว่ามีการมีการขายที่มากเกินไป ถ้าคุณเจอกราฟราคาที่วิเคราะห์ร่วมกับ Bollinger Band รูปแบบนี้ก็ให้คาดการณ์ได้เลยว่ากราฟราคาอาจจะมีการกลับตัวเร็วๆนี้ จากแนวโน้มขาลงเป็นแนวโน้มขาขึ้น
วัดความผันผวนของคู่เงิน
“Bollinger Band” สามารถวัดความผันผวนของคู่เงินนั้นได้ว่ามีความผันผวนมากน้อยขนาดไหน เช่น ถ้าหากคู่เงินนั้นมีความผันผวนมาก กราฟราคาจะมีการแกว่งตัวอย่างรุนแรงจนทำให้ เส้น Moving Average ทั้ง 3 เส้นแยกออกจากกัน แต่ถ้าคู่เงินนั้นมีความผันผวนน้อย กราฟราคาจะไม่ค่อยเคลื่อนไหวหรือจะมีการแกว่งตัวที่น้อยมาก ซึ่งทำให้เส้น Moving Average ทั้ง 3 เส้นใกล้กันมากเช่นกัน